ปูนปรับระดับ (Self-Leveling) หรือช่างทั่วไปเรียกว่า ปูนไหล คือ ปูนประเภทหนึ่งที่มีลักษณะเหลว สามารถไหลตัวได้ดี ให้เรียบเองโดยไม่ต้องอาศัยช่างฝีมือเพื่อปาดให้เรียบ มีหน้าที่เพื่อปรับพื้นผิวที่ไม่เรียบให้กลับมาเสมอกัน ได้ระดับ ปราศจากน้ำขัง ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ นอกจากนี้ยังนิยมใช้ซ่อมแซมพื้นถนนที่มีรอยร้าว ผิวหน้าสีกกร่อน มีคราบราดำด้วยเช่นกัน
![](https://static.wixstatic.com/media/564bc3_bccc6016f47f4f7fac7dc14e29c5c144~mv2.jpg/v1/fill/w_980,h_408,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_auto/564bc3_bccc6016f47f4f7fac7dc14e29c5c144~mv2.jpg)
ในบทความนี้ Ferro จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับประเภทการใช้งานปูนปรับระดับที่ถูกต้องและเหมาะสมกับประเภทการใช้งาน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้งาน โดยทีม Ferro ของจำแนกปูนปรับระดับตามประเภทการใช้งาน 2 ประเภท ดังนี้
1.ปูนปรับระดับสำหรับงานเตรียมผิว
ปูนไหลสำหรับงานเตรียมผิว มักใช้เพื่อปาดผิวให้เรียบเนียน พื้นได้ระดับเสมอกัน ก่อนปูทับด้วยวัสดุต่าง ๆ เช่น กระเบื้อง กระเบื้องยาง ไม้ปาร์เกต์ ไม้ลามิเนต หรือกระเบื้องเซรามิกอื่น ๆ นิยมใช้เทเพื่อปรับระดับพื้นตึกอาคาร คอนโด สำนักงาน แล้วปูทับด้วยวัสดุต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้น
2.ปูนปรับระดับสำหรับงานซ่อมผิว
ปูนปรับระดับประเภทนี้ นิยมนำมาใช้งานเพื่อซ่อมแซมผิวพื้นที่มีปัญหารอยร้าว แตกลายงา ทำให้พื้นไม่สวยงาม ไม่เรียบเนียนอย่างที่ควรจะเป็น ปูนไหลประเภทนี้เหมาะสำหรับซ่อมผิวถนนคอนกรีตที่ผิวหน้าคอนกรีตสึกกร่อน มีรอยร้าว แต่โครงสร้างเดิมของพื้นคอนกรีตยังคงแข็งแรง ใช้งานได้ดี รวมไปถึงการใช้เพื่อปูปรับพื้นคอนกรีตโรงงาน ลานจอดรถ และคลังสินค้า ที่ต้องการความเรียบเนียนสูง เพื่อความปลอดภัยของสินค้าและพนักงานนั่นเองครับ
ข้อดีของปูนปรับระดับ (Self-Leveling)
1.เรียบเนียน ไหลตัวดี
อย่างที่เข้าใจกันดีว่าจุดเด่นของปูนปรับระดับ คือ ความสามารถในการไหลตัวได้ดี เนื่องจากเนื้อปูนมีลักษณะเหลว ทำให้ปูนสามารถไหลได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้คราดเพื่อปาดให้เรียบ แต่ยังคงต้องปาดเพื่อให้ได้ระดับที่เหมาะสม ฉะนั้นข้อดีของปูนประเภทนี้จึงหนีไม่พ้นเรื่องผิวพื้นที่เรียบเนียน เสมอกันจากการไหลตัวเร็วของปูน
![](https://static.wixstatic.com/media/615141_6cefc3d6ebc64d1a85b138352dfd6fda~mv2.jpg/v1/fill/w_980,h_653,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_auto/615141_6cefc3d6ebc64d1a85b138352dfd6fda~mv2.jpg)
2. เซ็ตตัวเร็ว
ในปัจจุบันปูนปรับระดับมีการพัฒนาสูตรให้สามารถเซ็ตตัวได้เร็ว แห้งไว สามารถเปิดใช้งานได้เร็ว โดยไม่จำเป็นต้องปิดพื้นที่นั้นนาน ๆ
3.ใช้งานง่าย
ปูน Self Leveling เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนามาเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน เพียงผสมน้ำในปริมาณที่แนะนำ ปั่นตามระยะเวลาที่กำหนด แล้วเทลงบนพื้นผิวที่เตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็จะได้พื้นที่เรียบเนียน และปลอดภัยแล้วครับ
4. ประหยัดเวลา
ด้วยนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ปูนปรับระดับแห้งเร็ว จึงช่วยย่นระยะเวลาในการทำงานของผู้รับเหมาได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น แต่การที่ปูนสามารถไหลได้ดีด้วยตัวเอง ไม่ต้องใช้คนปาดให้เรียบ ยังสามารถช่วยประหยัดแรงอีกด้วยครับ
วิธีการเลือกปูนปรับระดับพื้นให้ตอบโจทย์การใช้งาน
การเลือกปูนปรับระดับนั้นสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ที่ต้องการใช้งานปูนปรับระดับ ความหนาที่ต้องการเท และควรเลือกสินค้าที่ผลิตและทดสอบตามมาตรฐาน เช่น ASTM (American Society for Testing and Materials) มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) หรือมาตรฐานยุโรป EN เป็นต้น
ในปัจจุบัน มีสินค้าปูนปรับระดับมากมายหลากยี่ห้อในตลาดให้เลือกซื้อ โดยทุกคนสามารถเลือกได้ตามความต้องการ โดยคำนึงถึงข้อที่ควรพิจารณาต่าง ๆ ซึ่งทีม Ferro ขอสรุปเพื่อให้ง่ายต่อการพิจารณา 3 ข้อหลักเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนาน ดังนี้
พื้นที่ที่ต้องการเท
ความหนาที่ต้องการเท
ปูนปรับระดับมีมาตรฐานรับรอง
แก้ปัญหาพื้นด้วยปูนปรับระดับ Ferrocrete
หากคุณคือคนที่กำลังประสบปัญหาพื้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยแตกร้าว สึกกร่อน ขรุขระ ไม่สม่ำเสมอ หรือมีคราบราดำ และกำลังมองหาปูน self- Leveling ที่จะช่วยซ่อมแซมหรือปรับผิวพื้นต่าง ๆ เช่น ผิวถนนคอนกรีต พื้นโรงงาน คลังสินค้า ลานจอดรถ หรือพื้นอาคารสำนักงาน คอนโด ฯลฯ
ทีม Ferro ขอแนะนำสินค้าที่นอกจากจะใช้งานง่าย มีคุณภาพ ผลิตและทดสอบตามมาตรฐาน ASTM เราขอแนะนำปูนปรับระดับที่จะตอบโจทย์ทุกปัญหาพื้นของคุณ
FERROCRETE 215 สำหรับซ่อมพื้นโรงงาน คลังสินค้า ลานจอดรถเสีย 5-15 มม.
FERROCRETE 216 สำหรับซ่อมผิวถนนคอนกรีต 3-8 มม.
FERROCRETE 204 มอร์ตาร์สำเร็จรูปสำหรับพื้นภายใน 3-8 มม.
FERROCRETE 205 มอร์ตาร์สำเร็จรูปสำหรับพื้นภายใน ชนิดหนา 10-30 มม.
ปูนปรับระดับของ Ferro นับเป็นนวัตกรรมปูนปรับระดับที่ผ่านการวิจัยและพัฒนามาอย่างยาวนาน เพื่อให้สินค้าของเรามีคุณสมบัติที่พร้อมใช้งานอย่างดีที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ยึดเกาะได้ดี ไม่หลุดล่อน สามารถทำงานได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น